วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีเลือกช่างภาพงานแต่งงาน ให้เหมาะสม และคุ้มค่าที่สุดสำหรับคุณ

จากประสบการณ์การถ่ายภาพงานแต่งงานมาหลายสิบงาน ทำให้ผมได้พบ บ่าวสาว , เพื่อน , ญาติ ฯลฯ ของบ่าวสาวที่เล่าประสบการณ์ถ่ายภาพงานแต่งงานของตัวเองมาหลายๆ ท่านในมุมมองของเจ้าภาพ แล้วก็เลยนำมาประมวลสรุปให้ พี่ๆ น้องๆ เราได้ฟังกัน บวกกับความเห็นส่วนตัวอีกหลายอย่างในมุมมองของช่างภาพ ซึ่งจะทำให้มีข้อมูลไปใช้เลือกให้ได้ดีขึ้นครับ เพราะส่วนมากก็จ้างกันครั้งเดียวเท่านั้น อิอิ หรือว่าใครมีหลายครั้งหนอ
1. เลือกช่างภาพที่ตนเองชอบสไตร์การถ่ายภาพ ข้อนี้เป็นปัญหามาก เพราะต้องดูผลงานก่อนๆ ของตัวช่างเอง  และช่างบางท่านจะลงแต่สไตร์แต่งภาพ แต่เวลาส่งงานจริงแต่งบ้าง ไม่แต่งบ้าง ต้องคุยรายละเอียดกันเองครับ ว่าตกลงจะส่งภาพให้อย่างไร แต่งให้กี่ภาพ แล้วที่สำคัญถ่ายเองหรือไม่หรือว่ามีแคนดิดช่วย ช่างภาพบางส่วนทำงานเป็นทีมครับ ไม่ได้ทำคนเดียว คือต้องคุยให้แน่่ว่าตัวจริงหรือไม่ โดยเฉพาะตามร้านเวดดิ้งที่เป็นอัลบั้มให้ชมบางครั้งเป็นอัลบั้มเดียวกันเกือบทุกร้าน แล้วแต่ละร้านเวดดิ้งบางครั้งจะจ้างช่างที่เป็นฟรีแลนซ์มาถ่ายให้ ทำให้ผลงานขึ้นกับช่างที่มาถ่ายให้ครับ เพียงแต่ช่างไม่ได้แสดงตัวใช้ชื่อของทางร้านเป็นเจ้าของงานถ่ายนั้นๆ ไป  ส่วนอัลบั้มที่เหมือนกันเพราะเป็นอัลบั้มตัวอย่างที่ส่งมาให้กับทางร้านเวดดิ้งที่ส่งงานให้กับทางบริษัทที่รับทำอัลบั้มครับ ภาพจึงเหมือนกัีน ฉะนั้นต้องเลือกสไตร์ที่ชอบและได้ช่างตัวจริงก่อนครับ
2. ช่างคนเดียว (ตากล้องหลัก) หรืออยากได้แบบเป็นทีม (มีช่างแคนดิดด้วย) โดยปกติงานหนึ่งงานถ้าไม่ใหญ่นักแขกประมาณ 10-30 โต๊ะ ช่างภาพคนเดียวที่เป็นช่างภาพหลักก็พอไหวครับ  แต่งานตั้งแต่ 50 โต๊ะขึ้นไป ควรได้ช่างแบบเป็นทีมที่มีคนไว้คอยแคนดิด หรือแอบถ่ายและเก็บบรรยากาศอื่นๆในงาน เพราะช่างภาพหลักจะไม่สามารถปลีกตัวมาเก็บภาพพวกนี้ได้เนื่องจากส่วนมากจะต้องอยู่กับบ่าวสาวเพื่อไม่ให้พลาดช็อทสำคัญ  ซึ่งจะบอกเลยว่าภาพของช่างแคนดิิด ส่วนมากแล้วจะดูสวยและมีเสน่ห์กว่าช่างภาพหลักครับ เพราะจะเป็นการถ่ายจากเลนส์ที่เป็นลักษณะเทเลซูมหรือเลนส์ที่มีระยะเก็บภาพจากที่ไกลๆ ทำให้ตัวแบบไม่รู้ตัว ภาพที่ออกมาจึงเป็นธรรมชาติกว่า ส่วนช่างภาพหลักส่วนมาก็จะเก็บภาพในลักษณะพิธีการคือจะชัดไปทั้งหมด และเน้นให้เห็นบรรยากาศรอบๆ ครบ
3. อุปกรณ์่ต่างๆ เช่น กล้อง เลนส์ แฟลชแยก ไฟสตูดิโอ ไฟส่องสว่างต่อเนื่อง ระบบไวเลสแฟลช ความมาตรฐานของระบบสายไฟต่างๆ  อันนี้คือต้องมีความพร้อมในการทำงานและมีการสำรองอุปกรณ์ไว้ครบครันครับ เพราะงานแต่งเป็นงานที่พลาดไม่ได้ครับ บางคนมีแต่กล้องและ้ก็แฟลชติดหัวกล้อง เลนส์ซูมเข้าออกตัวเดียว ภาพออกมามันจะเหมือนๆ กันครับ และภาพจะดูแบนไม่มีมิติ ต้องมีการจัดแสงบางสถานะการณ์ เช่น พิธีหมั้น ส่วนมากจัดในบ้านซึ่งอาจจะมืดแสงนีออนไม่พอหรอกครับ อาจต้องจัดไฟต่อเนื่อง เพิ่ม 2-4 ชุด  ระบบสายไฟก็ต้องมาตรฐานครับ ไม่ใช่ใช้แบบลากสาย 39-69 บาท มันร้อนแล้วไหม้ หรือว่าอาจชำรุดง่า่ยๆ ต้องเป็นสายไฟเฉพาะที่สามารถทนไฟแลทนร้อนได้ดีครับ ซึ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยครับ ไฟสตูดิโอเวลาถ่ายหน้างานจะช่วยได้มากทำให้ผิวเนียนสวยใสซึ่งผมว่าเจ้าสาวทุกคนอยากได้แน่ๆ  และแฟลชแยกไวเลสบางครั้งใช้ในการยิงทำแสงริมไลน์หรือแนวแสงต่างๆ เพื่อให้ภาพมีความแปลกและสวยกว่าปกติอันนี้แล้วแต่เทคนิคของช่างครับ
4. ช่างแต่งหน้าทำผมบ่าวสาว งานแต่งช่างแต่งหน้าทำผมมีความสำคัญไม่น้อยกว่าช่างถ่ายภาพเลยครับ แต่งหน้าไม่ดี ไม่เนียน แต่งแล้วหน้าลอย และอื่นๆ มาจากช่างแต่งหน้าเป็นอันดับแรกครับ ช่างแต่งหน้าเหมือนศิลปินที่ทำงานศิลปะบนใบหน้าครับ แล้วต้องมีความรู้เรื่องไฮไลน์ เชดดิ้ง สีสัีน การเข้ากันของชุดและทรงผม  เช่น ชุดไทยต้องแต่งหน้าทำผมอย่างไร ชุดราตรีต้องแต่งหน้าทำผมอย่างไร สำคัญอีกอย่างคือ เครื่องสำอาง เพราะปัจจุบันผิวคนจะแพ้ง่ายๆ ฉะนั้นต้องใช้ยี่ห้อที่ดี มีแบรนด์ และสำคัญผ่าย อย. จะดีที่สุด เครื่องสำอางไม่ดีนอกจากจะหลุดลอกได้ง่ายแล้ว ยังเปลี่ยนสีเมื่อผิวของคนมีเหงื่อทำให้หน้าดำ หน้าเขียวได้ ครับ
5. ราคา สุดท้ายที่ต้องพิจารณากันก็คือเรื่องราคาครับ คนส่วนมากเมื่อสอบถามเรื่องการถ่ายภาพและแต่งหน้าจะคุยเรื่องราคาเป็นเรื่องแรกโดยไม่ใส่ใจในรายละเอียดของผลงานของช่างภาพครับ คงคิดว่าใครๆ ก็ถ่ายได้เหมือนกัน บอกเลยครับ ว่าถ้าคุณขาดข้อใดข้อหนึ่งด้านบน ผลงานไม่เหมือนกันแน่ครับ ง่ายๆ แค่ ไฟสตูหน้างานมี  กับไม่มีไฟสตูหน้างาน ถ่ายออกมาภาพไม่เหมือนกันแน่ครับ  แล้วงานแต่งงานๆ หนึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าโต๊ะจีน สถานที่ ค่าตัดชุด ค่าแต่งตัว ฯลฯ สุดท้ายถ้าคุณไม่ได้ช่างภาพที่ดี มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ที่คุณลงทุนมาทั้งหมดมีค่าแค่ 0 ครับ เพราะไม่มีภาพสวยๆ เหมือนที่ต้องการในใจไว้ในอนาคตอีก 10-20 ปี ที่ลูกหลานจะกลับมาดู ผมเคยดูภาพคุณพ่อคุณแม่ผมแต่งงานถ่ายเมื่อเกือบ 40 กว่าปีที่แล้ว แม้จะเป็นภาพขาวดำและกล้องฟิลม์ แต่ดูได้เลยว่าคนถ่ายมีฝีมือ และมีคุณภาพของภาพสมกับเมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว มาดูในปัจจุบันยังคงความงดงามและคลาสสิกเพราะมีทั้งแสงเงาที่ดี และความคมชัดสูงครับ  ฉะนั้นเมื่อคุณลงทุนไปมากมาย กับช่างภาพมืออาชีพที่ผมว่าราคาคงไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายในงานผมว่าคุ้มค่านะครับ เพราะสุดท้ายที่คุณเก็บไว้ดูก็คือภาพถ่ายสวยงามครับ แต่ถ้าคุณจ้างช่างภาพราคาถูกสุดๆ คงต้องไปถามเค้าด้วยว่าจะได้ภาพและผลงานอย่างใจคุณคิดหรือเปล่าครับ การถ่ายภาพงานแต่งไม่ใข่อะไรที่ต้องลองผิดลองถูกนะครับ เอาครั้งเดียวให้ชัวร์ไปเลย 


เรามีบริการถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ แต่งหน้าทำผม ทำพรีเซนเทชั่นวันงาน และอีกมากมาย พร้อมอุปกรณ์ไฟสตูดิโอ และไฟต่อเนื่อง ที่ใช้ในงานเพื่อความเหมาะสมของแต่ละงาน
จองก่อนงานหลายเดือนมีส่วนลดพิเศษให้ด้วยครับ
ให้   add facebook ชื่อ ปรีชา จรัสวิศิษฎ์รังษี
กดไลน์ที่  fanpage  ชื่อ  ตากล้องโคราช และ ตุ๊กตาเมคอัพ
ชมผลงานได้ที่ เฟสบุ๊ก  หรือที่เว็บไซค์  http:\\www.taklontkorat.com
ส่งเมล์เพื่อรับรายละเอียดงานและราคาได้ที่ taklongkorat@gmail.com
โดยให้ส่งเมล์วันที่จัดงาน  สถานที่จัดงาน  จำนวนโต๊ะโดยประมาณ เพื่อจะได้คำนวณราคาให้ครับ

นอกจากนี้ยังมีเว็บบล็อกให้ความรู้กับท่านเรื่องกล้อง งานแต่งงาน การถ่ายภาพ การแต่งหน้าที่
http://taklongkorat.blogspot.com/

ติดต่อโดยตรงเบอร์โทร 085-4974887  พี่จูตากล้องโคราช 
                                    080-4741919  พี่ตุ๊กตาเมคอัพ      ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น